Real Madrid Player Ratings vs Alavés: “ชนะปลายเกม” ต่อชีวิตอลอนโซ่ในคืนกดดัน

เกมนี้ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในแมตช์ชี้ชะตาของ ชาบี อลอนโซ่ เพราะมาดริดเพิ่งสะดุดต่อเนื่องและแต้มหลุดมือบ่อยจนเริ่มถูกตั้งคำถามว่า “พาทีมลุ้นแชมป์ได้จริงไหม” การบุกมาเยือนเมนดิซอร์โรซาเลยไม่ใช่แค่เรื่อง 3 คะแนน แต่คือการยื้อโมเมนตัมของทีมและความน่าเชื่อถือของกุนซือด้วย 

ท้ายที่สุด “โลส บลังโกส” เอาตัวรอดได้ด้วยชัยชนะ 2–1 จากสองโมเมนต์สำคัญ: เอ็มบัปเป้ กลับมาจากอาการเจ็บแล้วยิงให้ทีมขึ้นนำ และเมื่อเกมทำท่าจะจบแบบเสียแต้มอีกครั้ง วินิซิอุส จุดไฟด้วยจังหวะกระชากก่อนปาดให้ โรดรีโก้ ซัดประตูชัยแบบเด็ดขาด 

อย่างไรก็ตาม ชัยชนะนี้ไม่ได้ลบคำถามทั้งหมด เพราะ “ปัญหาเดิม” ยังโผล่มาให้เห็นชัด—โดยเฉพาะการป้องกันช่วงเปลี่ยนจังหวะที่ทำให้เสียประตูตีเสมอในครึ่งหลัง แต่ในคืนที่ความกดดันสูงสุด มาดริดอย่างน้อยก็กลับบ้านพร้อม 3 แต้ม และยังไล่หลังบาร์ซ่าอยู่ 4 คะแนนในตารางลีก 

 

เรอัล มาดริด: Player Ratings (ระบบ 4-4-2)

 

เรอัล มาดริด: Player Ratings (ระบบ 4-4-2)

เรตติ้งตาม FotMob (ต้นฉบับระบุไว้) 

ตำแหน่ง

ผู้เล่น เรตติ้ง

รีไรท์สรุปฟอร์ม

GK

ธิโบต์ กูร์กตัวส์

7.2

เกมค่อนข้างนิ่ง งานไม่หนักมาก เจอบอลเข้ากรอบไม่เยอะ แต่ยืนตำแหน่งและคุมพื้นที่ได้ตามมาตรฐาน 

RB

เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้

7.6

เติมด้านขวาด้วยสปีดและการเปิดบอล สร้างโอกาสได้หลายครั้ง แต่จังหวะเชื่อมกับโรดรีโก้ยังไม่ค่อยลื่น 

CB

ราอูล อาเซนซิโอ

7.3

คุมเกมรับแบบเรียบ ๆ แต่แน่น ทำให้โบเย่เล่นยาก และมีความสม่ำเสมอตลอดเกม 

CB

อันโตนิโอ รูดิเกอร์

7.2

มีช็อตพลาดใหญ่ในจังหวะเสียประตู—ยืนไลน์พลาด/ไล่ไม่ทัน ทำให้ทีมต้องเริ่มใหม่อีกครั้ง 

LB

บิคตอร์ บัลเดเปนญาส

7.4

เกมบุกยังลังเล จ่ายคืนหลังบ่อย แต่เกมรับทำได้ดีมากสำหรับ “นัดเปิดตัว” 

RM

โรดรีโก้

8.1

เจาะบล็อกต่ำไม่ง่ายในช่วงต้น แต่พอเข้าช่วงท้ายเกม “ตื่น” แล้วปิดบัญชีด้วยประตูชัย สำคัญมาก แถมเป็นประตูลีกแรกในรอบนานตามที่บทต้นฉบับเน้น 

CM

อาร์ดา กูแลร์

7.2

จ่ายบอลคม มีลูกเซ็ตพีซดี แต่บทบาทยังทับซ้อน/ต้องหาจุดลงตัวเมื่อเบลลิงแฮมอยู่ในสนาม 

CM

โอเรเลียง ชูอาเมนี่

7.0

มีจังหวะโดนเป่าก้ำกึ่งหลายครั้ง แต่โดยรวมแท็กเกิลดี อ่านเกมรับดี และถอยไปเป็นเซ็นเตอร์เพิ่มเป็นระยะ 

LM

จู๊ด เบลลิงแฮม

8.6

“สมองของทีม” เกมนี้—วิสัยทัศน์และการจ่ายบอลช่วยลากมาดริดให้รอด แถมยังต้องไล่ลงมาซ้อนเพื่อนบ่อยเกินจำเป็น 

ST

คีลิยัน เอ็มบัปเป้

8.0

กลับมาจากเจ็บแบบแทบไม่สนิม ได้พื้นที่เมื่อไหร่มีลุ้นทันที และเป็นคนปลดล็อกเกมด้วยประตูขึ้นนำ 

ST

วินิซิอุส จูเนียร์

7.1

ส่วนใหญ่เหมือนหายจากเกมเพราะยอมปล่อยพื้นที่ฝั่งซ้ายให้เอ็มบัปเป้ แต่มี “หนึ่งจังหวะระดับเกมเปลี่ยน” ที่แอสซิสต์ให้โรดรีโก้ซัดชัย 

ตัวสำรอง (Substitutes)

ผู้เล่น

นาทีลง เรตติ้ง

หมายเหตุ

กอนซาโล การ์เซีย

78’ (แทน กูแลร์) 6.0 ลงมาช่วยคุมจังหวะช่วงท้าย 
ดีน ฮุยเซน 78’ (แทน บัลเดเปนญาส) 6.3

เพิ่มความแน่นเกมรับเพื่อปิดเกม 

บราฮิม ดิอาซ

83’ (แทน โรดรีโก้) N/A เวลาน้อย ยังไม่พอให้ประเมิน 
ฟรังโก มาสตันตูโอโน 83’ (แทน วินิซิอุส) N/A

เวลาน้อย ยังไม่พอให้ประเมิน 

 

อลาเบส: XI และรูปแบบ (4-1-4-1)

อลาเบสมาในทรงที่ชัดเจนคือ ตั้งรับรอจังหวะสวน: มีมิดฟิลด์ตัวรับยืนคุมหน้ากองหลัง แล้วปล่อยให้ไลน์กลาง 4 คนช่วยกันบีบพื้นที่ ก่อนใช้บอลยาว/จังหวะหลุดด้านหลังเล่นงานมาดริด 

  • ตัวจริง (ตามต้นฉบับ): อันโตนิโอ ซิเวร่า; จอนนี่ อ็อตโต, นาอูเอล เตนากลิอา, จอน ปาเชโก้, บิคตอร์ ปาราด้า; อันโตนิโอ บลังโก; คาเลเบ, ปาโบล อิบันเญซ, เดนิส ซัวเรซ, อับเด เรบบาช; ลูคัส โบเย่ 
  • ตัวสำรองที่ถูกส่งลง: โทนี่ มาร์ติเนซ, การ์เลส อาเลนญ่า, การ์ลอส บิเซนเต้, อันเดร์ เกบาร่า, ยูสเซฟ เอ็นริเกซ

 

Player of the Match

จู๊ด เบลลิงแฮม — เกมนี้ไม่ใช่แค่ “เล่นดี” แต่เป็นคนทำให้ทีมมีคุณภาพในจังหวะสำคัญ ทั้งการแทงบอลที่แม่นยำและการพาทีมหลุดจากความนิ่งช้าในแดนสาม

 

เกมไหลยังไง: Alavés 1–2 Real Madrid (เล่าแบบละเอียด)

ช่วงต้นเกม: เอ็มบัปเป้กลับมาทันที “มีอิมแพ็กต์”

มาดริดเริ่มเกมด้วยพลังจากเอ็มบัปเป้—แค่ 8 นาทีแรกก็มีจังหวะได้ส่องอันตราย 2 ครั้งเหมือนประกาศว่า “กลับมาแล้ว” แต่หลังจากนั้นภาพเดิมก็กลับมา: ครองบอลเยอะก็จริง ทว่าจังหวะเข้าทำกลับช้าและอ่านง่าย ทำให้อลาเบสตั้งบล็อกต่ำรับสบาย ๆ แล้วรอสวน

นาทีที่ปลดล็อก: เบลลิงแฮมจ่าย—เอ็มบัปเป้ยิง

ก่อนถึงครึ่งชั่วโมง มาดริดมีจังหวะเปลี่ยนเกมจากแดนตัวเอง เบลลิงแฮมวางบอลให้เอ็มบัปเป้หลุดทางซ้ายแบบพอดีเป๊ะ จากนั้นเอ็มบัปเป้ลากตัดเข้าหน้าเขตโทษแล้วกดเต็มข้อเป็นประตูขึ้นนำ 1–0

อีกไม่กี่นาทีต่อมา กูแลร์เปิดเตะมุมได้ลุ้น และเบลลิงแฮมส่งบอลเข้าประตูไปแล้ว แต่ถูกจับว่าโดนแขน ทำให้สกอร์ไม่ขยับ

ครึ่งหลัง: คุมเกมได้ แต่ “ไร้หมัดน็อก”

หลังพัก มาดริดดูคุมเกมมากกว่าเดิม ทว่าปัญหาคือคุมแล้วไม่ค่อย “ปิดบัญชี” เกมรุกยังต้องหวังจังหวะเดี่ยว/จังหวะพิเศษมากกว่าการเจาะเป็นระบบ ทำให้อลาเบสยังมีหวังเสมอจากความผิดพลาดแค่ครั้งเดียว 

นาที 69: รูดิเกอร์พลาด—อลาเบสตีเสมอ

แล้วสิ่งที่อลาเบสรอก็มาถึง บอลยาว/บอลทะลุหลังแนวรับทำงาน รูดิเกอร์อ่านไลน์พลาดและไล่ไม่ทัน ปล่อยให้ การ์ลอส บิเซนเต้ หลุดไปยิงผ่านกูร์กตัวส์ กลายเป็น 1–1 และภาพกุนซือมาดริดที่เครียดจัดก็ชัดมากในจังหวะนี้

นาที 76: วินิซิอุส “หายทั้งเกม” แต่โผล่มาเปลี่ยนเกม—โรดรีโก้ปิดงาน

จุดตัดสินเกมเกิดขึ้นเร็วมากหลังเสียประตู วินิซิอุสที่แทบไม่มีบทบาทตลอดคืน ระเบิดสปีดชนะจอนนี่ อ็อตโตทางซ้าย ก่อนปาดเรียดเข้ากลางให้โรดรีโก้ยิงแบบนิ่ง ๆ เป็นประตูชัย 2–1 (และเป็นประตูลีกที่สำคัญมากในเชิงความมั่นใจของเขา)

จากนั้นมาดริดประคองเกมจนจบ เก็บชัยชนะในลีกได้เป็นครั้งที่ 2 จาก 6 นัดหลังสุดตามที่ต้นฉบับชี้ไว้

 

สถิติครึ่งแรก (Halftime Stats)

สถิติ

Alavés

Real Madrid

ครองบอล

52% 48%
xG 0.58

0.33

ยิงทั้งหมด

2 5
ยิงเข้ากรอบ 1

1

โอกาสจะแจ้ง

1 0
ความแม่นยำจ่ายบอล 87%

86%

ฟาวล์

3 10
เตะมุม 4

2

สถิติเต็มเวลา (Full Time Stats)

สถิติ

Alavés

Real Madrid

ครองบอล

52% 48%
xG 1.36

1.86

ยิงทั้งหมด

6 13
ยิงเข้ากรอบ 2

6

โอกาสจะแจ้ง

3 2
ความแม่นยำจ่ายบอล 86%

86%

ฟาวล์

12 13
เตะมุม 5

7

 

บทสรุป

ชัยชนะ 2–1 เหนืออลาเบสคือ “การหายใจได้อีกเฮือก” ของเรอัล มาดริดและชาบี อลอนโซ่ เพราะมันเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่แรงกดดันสูงสุด—ทีมต้องชนะเพื่อไม่ให้หลุดวงโคจรลุ้นแชมป์ และต้องชนะเพื่อหยุดคำถามเรื่องทิศทางของฟุตบอลในมือกุนซือ

แต่เกมนี้ก็ย้ำชัดว่า มาดริดยังต้องแก้สองอย่างให้เร็ว: (1) ความผิดพลาดในเกมรับเมื่อโดนบอลเล่นหลังไลน์ และ (2) การสร้างโอกาสแบบเป็นระบบในวันที่คู่แข่งตั้งบล็อกต่ำ เพราะถ้าต้องหวัง “จังหวะมหัศจรรย์” ทุกนัด ต่อให้มีซูเปอร์สตาร์ก็เสี่ยงเสียแต้มได้ตลอด

และสำหรับสายอ่านเกม-วิเคราะห์ก่อนตัดสินใจ เช็คฟอร์ม/โมเมนตัม/ตัวจริงตัวเจ็บให้ครบก่อนทุกครั้ง—ค่อยไปต่อยอดมุมมองบน UFA777 หรือ UFA777 เว็บแทงบอล ก็จะช่วยให้การตัดสินใจเป็นระบบมากขึ้น (เน้นข้อมูล ไม่ใช่อารมณ์)